อุโบสถไม้ที่วัดโพธิ์ย้อย

อุโบสถไม้ที่วัดโพธิ์ย้อย



วัดโพธิ์ย้อย ตำบลไทยเจริญ อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 224 ใกล้สามแยกปะคำ ภายในวัดมีอุโบสถไม้หลังเก่าซึ่งสร้างซ้อนทับลงบนฐานศิลาแลงสูงเด่น มีใบเสมาปักอยู่โดยรอบ เสมาเหล่านี้สลักเป็นรูปโยคีนั่งชันเข่าอยู่ในซุ้มเรือนแก้ว รูปสถูป ที่ส่วนฐานของเสมาถูกเทปูนล้อมทับไว้ เนื่องจากเมื่อราวปี พ.ศ. 2535 มีกลุ่มคนพยายามจะเข้ามาขโมยโบราณวัตถุเหล่านี้ไปขาย ทางวัดจึงพยายามหาวิธีป้องกัน

 

บานหน้าต่าง ทำลวดลายประดับด้วยไม้แกะสลัก

 

คุณชิงชัย จงวงษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 (บ้านปะคำ) ได้เล่าถึงความทรงจำในอดีตที่มีต่ออุโบสถไม้หลังนี้ว่า

ทางวัดเลิกใช้งานโบสถ์ไม้หลังนี้ไปเมื่อราว 10-20 ปีมาแล้ว เนื่องจากโบสถ์มีสภาพชำรุดทรุดโทรมมาก ไม่สามารถดำเนินการบูรณะหรือซ่อมแซมได้ เพราะกรมศิลป์ไม่อนุญาต สมัยก่อนพื้นที่ในบริเวณวัดและรอบๆ โบสถ์ มีระดับต่ำกว่าปัจจุบันมาก โบสถ์ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงสูงเด่น คนที่มาบวชที่นี่จะขี่ช้างวนรอบโบสถ์ และลงจากหลังช้างที่ฐานศิลาแลงด้านหน้าโบสถ์ได้พอดี ส่วนด้านหลังของโบสถ์เคยมีศาลาหลังใหญ่ตั้งอยู่ แต่ทางวัดได้รื้อ และปรับพื้นที่เป็นลานโล่งไปแล้ว”   

 

อาคารอุโบสถไม้สร้างซ้อนทับลงบนฐานศิลาแลง

 

ปัจจุบันอุโบสถไม้หลังนี้ไม่ได้ใช้งานแล้ว ด้านในจึงกลายเป็นที่เก็บสิ่งของเหลือใช้ รวมถึงโบราณวัตถุอีกหลายรายการ เช่น ใบเสมาสลักรูปโยคี เสมาสลักรูปธรรมจักร เสาประดับกรอบประตู ทับหลัง และฐานโยนี เป็นต้น ทับหลังที่พบภายในอุโบสถหลังนี้ ทางวัดได้นำมาก่อปูนล้อมรอบฐานชุกชีที่ประดิษฐานพระประธาน แต่มีบางชิ้นที่ตั้งวางไว้ด้านหน้า พบทั้งสภาพสมบูรณ์และชำรุดแตกหัก

 

 

ใบเสมาพบอยู่โดยรอบพระอุโบสถไม้

 

กลุ่มทับหลังที่พบมีร่องรอยการแกะสลักเป็นภาพเล่าเรื่องต่างๆ แตกต่างกันไป เช่น พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณประทับนั่งในซุ้มเรือนแก้วเหนือพนัสบดี พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณประทับนั่งในซุ้มเรือนแก้วรายล้อมด้วยลวดลายพันธุ์พฤกษา และรูปบุคคลประทับนั่งท่ามหาราชลีลาสนะในซุ้มเรือนแก้ว เป็นต้น โบราณวัตถุต่างๆ เหล่านี้ ถูกเคลื่อนย้ายมาจากปราสาทโคกงิ้ว ปราสาทตาดำ และปราสาทตาเสา ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากวัดโพธิ์ย้อยไม่ไกลนัก

 

ทับหลังที่ถูกเทปูนติดอยู่ล้อมรอบฐานชุกชีภายในพระอุโบสถไม้

สลักเป็นรูปบุคคลประทับนั่งท่ามหาราชลีลาสนะในซุ้มเรือนแก้ว

 

 

ทับหลังหลายชิ้นที่เก็บไว้ในอุโบสถไม้

 

นอกจากนี้มีเรื่องเล่าว่าเคยพบพระพุทธรูปทองคำองค์ใหญ่ภายในบริเวณวัด เป็นพระประธาน แต่ไม่ทราบว่าสูญหายไปเมื่อใด และยังได้พบพระพุทธรูปนาคปรกอีกด้วย ซึ่งทางวัดได้เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี โดยจะอัญเชิญออกมาให้ประชาชนได้สรงน้ำในช่วงวันสงกรานต์เพียงปีละครั้งเท่านั้น


เกสรบัว อุบลสรรค์

กองบรรณาธิการวารสารเมืองโบราณ